เมตาเวิร์ส (Metaverse) เทคโนโลยี แห่งโลกอนาคต ที่ชีวิตนี้ ไม่คิดว่าจะได้เห็น

เมตาเวิร์ส (Metaverse) โลกดิจิตอล เสมือนจริง ที่ทั้งโลกจับตามอง

เมตาเวิร์ส (Metaverse) เป็นการทำงาน ร่วมกันระหว่าง VR (Virtual Reality) กับ AR (Augmented Reality) ให้รวมเป็นโลก ใบเดียวกันนั่นเอง โดยมีอินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงที่ เป็นตัวเชื่อมต่อ ทำให้โลกออนไลน์ และออฟไลน์ทั้ง 2 ฝั่ง สามารถรวมเป็น เนื้อเดียวกัน จนแยกไม่ออก

ด้วยการพัฒนา อย่างรวดเร็วของ เทคโนโลยี ในปัจจุบัน ที่ทำให้มนุษย์ สามารถขยาย ศักยภาพของ การสร้างสรรค์ โลกจินตนาการ แบบไร้ขอบเขต เพื่อเชื่อมต่อโลก ของปัจจุบันเข้าสู่ โลกเสมือนจริง ทางดิจิทัล ที่เราอาจเคยเห็น แค่เพียงในหนัง แต่ในวันนี้ มันได้เกิดขึ้นแล้ว

Metaverse ถือเป็นศัพท์ใหม่ที่ มีความหมายใหญ่มาก ๆ ปรากฏการณ์นี้ อาจให้ความรู้สึก เหมือนกับตอนที่ กำเนิดสมาร์ทโฟน ที่สุดล้ำสมัย เมื่อเปรียบเทียบกับ โทรศัพท์มือถือ ในทศวรรษ 1980 เพราะในเวลานั้น ใครจะไปคิด ว่าจะมีสมาร์ทโฟน ที่เราสามารถ ใช้ได้ครอบจักวาล ขนาดนี้กันหล่ะ

นั่นก็เพราะว่า อนาคตมักมาถึง เร็วกว่าที่เราคิดเสมอ

เมตาเวิร์ส (Metaverse) คืออะไร ?

metaverse แปลว่า อะไรกันแน่นะ แน่นอนว่าหลายคน อาจเคยได้ยิน คำนี้มาบ้าง แต่ยังสงสัย ว่าความหมายจริง ๆ ของ Metaverse คืออะไร คำนี้มีคนเคย แปลเป็นภาษาไทย เอาไว้ว่าเป็น “โลกพหุภพ” ที่สามารถเชื่อมทั้ง ภพโลกความเป็นจริง เข้ากับภพของ โลกเสมือนจริง และภพโลกดิจิตอล เข้าไว้ด้วยกัน

ผู้คนสามารถ เข้าไปจับจ่าย ซื้อของใช้สอย และส่งถ่ายข้อมูล กันข้ามแพลตฟอร์ม ข้ามโลก ข้ามภพ ได้อย่างไม่มี ข้อจำกัดใด ๆ

อาจฟังดูเหลือเชื่อ แต่ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ อย่างเช่น Alibaba, Tencent และ ติ๊กต็อก (TikTok) ก็ได้ให้ความ สนใจเรื่องนี้ อยู่ไม่น้อย

รวมไปถึงบริษัท โซเชียลมีเดีย ยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ที่กำลังให้ ความสำคัญกับ เมตาเวิร์สมากเป็น ลำดับต้น ๆ ในตอนนี้เช่นกัน

โลกใบใหม่ ของพี่ใหญ่ อย่าง Facebook

ก่อนหน้านี้ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Facebook ได้เคยพูดถึง เรื่องนี้เอาไว้ว่า โลกเมตาเวิร์ส เป็นสิ่งที่อยู่ ในจินตนาการ ของตัวเขามา ตั้งแต่สมัยเรียน แต่ปัญหาก็คือ เทคโนโลยี ในยุคสมัยนั้น รวมถึงช่วงที่ กำลังก่อตั้ง Facebook ก็ยังไม่รองรับ

จนเมื่อวันที่ VR และ Augmented Reality เริ่มมีการพัฒนา และก้าวหน้าขึ้น ทำให้มองเห็น โอกาสที่จะทำ ให้สิ่งที่ฝัน เป็นจริงขึ้นมา

เมตาเวิร์สที่ ซัคเคอร์เบิร์ก พูดถึงไว้คือ พื้นที่เสมือนจริง ที่ผู้ใช้สามารถ เข้าไปใช้ชีวิต ในแบบที่ต้องการได้ ตั้งแต่การทำงาน การท่องเที่ยว การสังสรรค์ หรือการซื้อขาย สินค้าดิจิตอล คอนเซปต์ของเมตาเวิร์ส คือการมีตัวตน บนโลกออนไลน์ ไม่ใช่แค่ดูเท่านั้น แต่สามารถที่จะ เข้าไปสัมผัส และมีส่วนร่วมได้ 

ที่ผ่านมา Facebook ลงทุนไปกับ VR และ AR ผ่านบริษัทลูก ปีละหลายพัน ล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายหลัก คือการเร่งสร้าง อีโคซิสเต็ม ของเมตาเวิร์ส ให้เกิดขึ้นจริง และวางเป้าหมายว่า จะเข้าใกล้จุดนั้นได้ ภายในสิ้นทศวรรษนี้

เพราะเป้าหมายใหญ่ของ Facebook คือการขยาย ฐานผู้ใช้งาน ออกไปให้กว้างที่สุด เพื่อวนกลับมาที่ โมเดลธุรกิจ ของตัวเองคือ การขายโฆษณา และอาจรวมไปถึง สินค้าดิจิตอล ในโลกเมตาเวิร์สด้วย

Metaverse Human คนแรกของไทย

ความร้อนแรงของ กระแสเมตาเวิร์ส หรือโลกเสมือน ถูกหยิบมาเป็น เทรนด์ที่กำลัง จะมีบทบาท อย่างมากที่สุดใน เวลาอันใกล้นี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็น เพราะความคุ้นเคย ของผู้บริโภค กับใช้เทคโนโลยี ในรูปแบบต่าง ๆ ที่วันนี้เปลี่ยน ให้สอดคล้องกับ ไลฟ์สไตล์ของคน ในปัจจุบัน ตั้งแต่ตื่นตอนเช้า ยันเข้านอน

Metaverse Human คือ คนเสมือนจริง อย่างเช่น ไอ ไอรีน สาวน้อยผมบ็อบ อายุวัย 21 ปี สูง 165 เซนติเมตร มีความมั่นใจเต็มร้อย เธอถูกสร้างขึ้นมา จากโลกดิจิตอล ให้กลายเป็นคน ที่เสมือนจริง ซึ่งมาพร้อมกับ ตัวตนที่น่าค้นหา กล้าลุย กล้าลอง ชอบที่จะค้นหา ประสบการณ์แปลกใหม่ ตามสไตล์ครีเอทีฟ ที่เป็นอาชีพของเธอ

ซึ่งไอรีนเองก็ สร้างความฮือฮา ให้กับคนไทย ได้เป็นอย่างมาก ตอนนี้ ไอ-ไอรีน ได้เข้าสู่วงการ อย่างเต็มตัว พร้อมสร้างสรรค์ ผลงานทุกอย่าง บนโลกออนไลน์ ทั้งงานโฆษณา งานถ่ายแบบ รีวิวสินค้า เพื่อความแปลกใหม่ ของกับผู้บริโภค

นับเป็นอีกหนึ่ง ปรากฎการณ์ใหม่ ของวงการสื่อสาร และงานโฆษณา คอยจับตาดู ไอรีน กันให้ดี เธออาจมาแรง แซงหน้า Influencer ที่เป็นคนจริง ๆ จนขึ้นไปเป็น Influencer เบอร์ต้น ๆ ก็เป็นได้

โลกเมตาเวิร์ส ใช้ได้จริงแล้วหรือยัง ?

อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ สะท้อนให้เห็น ถึงความทันสมัย ทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยีสุดล้ำ ที่มาตอบรับ กับวิถีชีวิต ในยุคดิจิตอล ได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งขึ้นกว่าเดิม

สำหรับเมตาเวิร์ส ที่พูดถึงกัน อยู่ในตอนนี้ ทุกอย่างยังคง แค่กำลังคิด เริ่มต้นเท่านั้น หากการพัฒนา โลกเมตาเวิร์ส ได้เกิดขึ้นจริง ๆ บริษัทใหญ่ ๆ ทางด้านเทคโนโลยี อีกหลาย ๆ แห่ง คงต้องต่อสู้ และแข่งขันกัน อย่างดุเดือดมากขึ้น ในช่วงสิบปี ที่จะถึงนี้ หรือไม่ก็อาจ จะยาวนานกว่านั้น